Medicinal Ferns E-books

 
  • 9 เฟิร์นลิ้นงู (Stalked Adder’s Tongue Fern) Ophioglossum petiolatum Hook.

    บทที่ 9 เฟิร์นลิ้นงู (Ophioglossum petiolatum) เป็นเฟิร์นดินที่มีลักษณะเด่นคือก้านใบชูแท่งสร้างอับสปอร์สีเหลืองเรียงตัวคล้ายลิ้นงู พบกระจายพันธุ์กว้างในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน รวมถึงหลายพื้นที่ในประเทศไทย ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ เฟิร์นชนิดนี้ถูกใช้เป็นสมุนไพรในจีนและไต้หวัน โดยนำใบไปทำครีมรักษาโรคผิวหนังอักเสบ ใช้ขับพิษ ถอนพิษงูกัด และมีรายงานสรรพคุณต่อโรคไวรัสตับอักเสบ อีกทั้งยังมีความสับสนกับ “หญ้าลิ้นงู” ซึ่งเป็นพืชต่างวงศ์ที่ใช้เป็นยาเย็นและมีสาร ursolic acid ปกป้องตับ ด้านองค์ประกอบทางเคมี เฟิร์นลิ้นงูมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น โฮโมฟลาโวนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และกรดไขมัน thermalic acids โดยเฉพาะสาร ophioglonin […]

     
  •  
  • 10 หวายทะนอย (Whisk Fern, Skeleton Fork Fern) Psilotum nudum (L.) P.Beauv.

    บทที่ 10 หวายทะนอย (Psilotum nudum) นำเสนอพืชโบราณในวงศ์ Psilotaceae ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียง 2 ชนิดทั่วโลก โดยพบในประเทศไทยทั้งหวายทะนอยและหวายทะนอยใบแบน มีลำต้นสีเขียวสดตั้งตรง ลักษณะตัดขวางเป็นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมแบน จัดเป็นเฟิร์นดินและอิงอาศัยที่สามารถพบได้ตั้งแต่ป่าธรรมชาติไปจนถึงกระถางต้นไม้ในเมือง แม้ปัจจุบันถือเป็นพืชหายาก แต่มีการใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร เช่น รักษาอาการท้องผูก ปัญหาระบบหายใจ และสมานแผลเมื่อผสมกับขมิ้น ด้านองค์ประกอบทางเคมีพบสารสำคัญหลายชนิด เช่น เอแมนโทฟลาโวน (Amentoflavone) ไบฟลาโวนอยด์ ฟลาโวนกลูโคไซด์ และฟีนอลิกกลูโคไซด์ psilotin ซึ่งมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาใกล้เคียงกับพืชกนกนารี ทำให้หวายทะนอยเป็นพืชโบราณที่ยังคงมีคุณค่าและศักยภาพต่อการศึกษาวิจัยทางยา

     
  •  
  • 11 หญ้าถอดบ้อง แส้หางม้า (Horsetail Fern) Equisetum hyemale L.

    บทที่ 11 หญ้าถอดบ้อง แส้หางม้า (Equisetum hyemale) เป็นเฟิร์นโบราณที่มีลำต้นเดี่ยวเป็นข้อปล้องชัดเจนและใบเล็กเรียงเป็นวง พบในเขตอบอุ่นถึงหนาวของซีกโลกเหนือ เช่น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และยุโรป แต่ไม่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หญ้าถอดบ้องได้รับความนิยมปลูกเป็นไม้ประดับเพราะรูปทรงสวยงาม และยังมีคุณค่าทางสมุนไพร โดยน้ำยาทิงเจอร์จากพืชชนิดนี้ถูกใช้ในศาสตร์โฮมิโอพาธีย์เพื่อรักษาอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ด ปวดกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงอาการปวดหัว คอ หลัง และความผิดปกติของตาและหู อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารประกอบซิลิกาคุณภาพดีที่ใช้ในอุตสาหกรรม ด้านองค์ประกอบทางเคมีพบสารสำคัญหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์กลูโคไซด์ (quercetin, kaempferol […]

     
  •  
  • 12 หญ้าเงือก หญ้าหูหนวก (Horsetail Fern) Equisetum ramosissimum var. huegelii (Milde) Christenh. & Husby

    บทที่ 12 หญ้าเงือก หรือหญ้าหูหนวก (Equisetum ramosissimum var. huegelii) เป็นเฟิร์นโบราณในวงศ์ Equisetaceae ที่พบทั่วไปในเขตร้อนและอบอุ่นของเอเชีย รวมถึงทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยมีลำต้นเดี่ยวสีเขียวสูงกว่า 1 เมตร มีร่องตามแนวยาวและสืบพันธุ์ด้วยสปอร์ที่ปลายลำต้น หญ้าเงือกถูกใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้านมายาวนาน ทั้งต้นมีสรรพคุณขับปัสสาวะ ขับนิ่ว บำรุงไต รักษาบาดแผล แก้ปวดข้อและกระดูก รวมถึงช่วยเจริญอาหารและรักษาโรคเกาต์ อีกทั้งยังมีองค์ประกอบของ Biosilica ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและหนังศีรษะ จึงถูกพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผม ด้านองค์ประกอบทางเคมีพบสารสำคัญหลายกลุ่ม เช่น Megastigmanes, […]

     
  •  
  • 13 เฟิร์นกีบแรด (Mule’s Foot Fern, Giant Fern) Angiopteris evecta (G.Forst.) Hoffm.

    บทที่ 13 เฟิร์นกีบแรด (Angiopteris evecta) เป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ในวงศ์ Marattiaceae ที่มีเหง้าใต้ดินและใบประกอบแบบขนนกสองชั้นยาวได้หลายเมตร ลักษณะโคนต้นพองคล้ายกีบเท้าแรดจึงเป็นที่มาของชื่อ พบกระจายพันธุ์ในเขตร้อนชื้นของเอเชียและออสเตรเลีย โดยในประเทศไทยพบทั่วไปตามป่าดิบเขาที่มีความชื้นสูง หมอพื้นบ้านใช้เหง้าและรากเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง รักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และอาการไข้ รวมถึงใช้เป็นยาห้ามเลือดและแก้ไอ ด้านการวิจัยพบว่าสารสกัดจากเหง้ามีฤทธิ์ต้านมะเร็งและเชื้อ HIV แม้ฤทธิ์ไม่แรงนัก และยังมีรายงานการทดลองต่อการงอกของเส้นขน องค์ประกอบทางเคมีสำคัญ ได้แก่สารกลุ่มเลคโตน เช่น Angiopteroside, Osmundalactone และสารสเตียรอยด์ Stigmast-5-en-3-β-ol […]

     
  •  
  • 14 สมุนไพรจากเฟิร์นกลุ่ม Leptosporangiate Fern

    บทที่ 14 สมุนไพรจากเฟิร์นกลุ่ม Leptosporangiate fern กล่าวถึงเฟิร์นแท้กลุ่มใหญ่ที่สุดที่มีความหลากหลายสูงสุดในปัจจุบัน โดยตามการจัดอนุกรมวิธานของ PPG1 (ค.ศ. 2016) มีมากถึง 44 วงศ์ รวมพันธุ์เฟิร์นหลายพันชนิด เช่น Pteridaceae, Polypodiaceae, Dryopteridaceae และ Thelypteridaceae ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบมากในประเทศไทยและทั่วโลก แม้การศึกษาคุณสมบัติทางเภสัชวิทยายังมีข้อมูลจำกัด แต่มีรายงานการค้นพบสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในบางวงศ์ที่สะท้อนศักยภาพการใช้เป็นสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เฟิร์นกลุ่มนี้จึงเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและควรได้รับการศึกษาเชิงลึกเพื่อพัฒนาต่อยอดทั้งด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์         

     
  •  
  • 15 ลิเภา ย่านลิเภา Lygodium flexuosum (L.) Sw.

    บทที่ 15 ลิเภา ย่านลิเภา (Lygodium flexuosum) เป็นเฟิร์นเลื้อยที่มีเถายาวเหนียวทนทาน ใช้ทำเชือกและงานจักสานหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยเฉพาะในภาคใต้ของไทย อีกทั้งยอดอ่อนยังรับประทานได้และทั้งต้นถูกใช้ในตำรายาไทยเป็นสมุนไพรแก้พิษฝีภายใน–ภายนอก ขับปัสสาวะ รักษาโรคทางเดินปัสสาวะและนิ่วในไต งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากต้นมีฤทธิ์ทำให้สัตว์ทดลองแท้ง สารสกัดจากใบมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ และมีรายงานฤทธิ์ยับยั้งการเจริญพันธุ์ ด้านองค์ประกอบทางเคมีพบสารสำคัญหลายกลุ่ม เช่น ฟลาโวนอยด์ กลูโคไซด์ (kaempferol derivatives), ควิโนน (tectoquinone), สเตียรอยด์ (3-sitosterol, stigmasterol), ไตรเทอร์ปีนอยด์ และไพโรน ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าทางสมุนไพรและการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายของเฟิร์นชนิดนี้ ทั้งในเชิงภูมิปัญญาท้องถิ่นและการศึกษาทางวิทยาศาสตร์

     
  •  
  • 16 กูดงอแง Lygodium japonicum (Thunb.) Swartz.

    บทที่ 16 กูดงอแง ย่านลิเภาจีน (Lygodium japonicum) เป็นเฟิร์นเลื้อยที่มีเหง้าขนาดเล็กและก้านใบยาว สามารถทอดเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่นได้ไกล ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นและมีอับสปอร์เกิดตามขอบใบย่อย พบกระจายพันธุ์กว้างในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของเอเชีย ตั้งแต่จีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย เนปาล จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิก ย่านลิเภาจีนมีความสวยงามจึงนิยมปลูกเป็นไม้กระถางแขวนประดับ อีกทั้งในจีนยังถูกใช้เป็นสมุนไพรชื่อ 金沙藤 และบันทึกอยู่ในสารานุกรมทางยาของจีน (Pharmacopoeia of The People’s Republic of China) แม้ยังไม่มีข้อมูลด้านองค์ประกอบทางเคมี แต่การใช้ประโยชน์ทั้งเชิงประดับและสมุนไพรสะท้อนถึงคุณค่าที่ควรศึกษาและอนุรักษ์ต่อไป 

     
  •  
  • 17 เฟิร์นลูกไก่ทอง (Golden Chicken Fern, Woolly Fern) Cibotium barametz (L.) J. Sm.

    บทที่ 17 เฟิร์นลูกไก่ทอง (Cibotium barametz) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่านไก่น้อย เป็นเฟิร์นดินขนาดใหญ่ที่มีเหง้าและก้านใบปกคลุมด้วยขนสีทองคล้ายลูกไก่ พบได้ทั่วไปในป่าดิบเขาที่ชุ่มชื้นของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยที่พบกระจายพันธุ์ทุกภาค เฟิร์นลูกไก่ทองมีคุณค่าทางสมุนไพรสูง ทั้งในแพทย์แผนจีนที่ใช้ชื่อ gou-ji รักษาโรคกระดูกและข้อ รูมาตอยด์ เบาหวาน ความดัน และอาการตกขาว รวมถึงการใช้ขนที่เหง้าเป็นสมุนไพรพื้นบ้านห้ามเลือด ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ยืนยันฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อโรค และป้องกันแผลในทางเดินอาหาร ด้านองค์ประกอบทางเคมีพบสารสำคัญหลายกลุ่ม เช่น เลคโตน สเตียรอยด์ ฟีนอลิก ไกลโคไซด์ และโพลีแซกคาไรด์ ที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพและเภสัชภัณฑ์ อีกทั้งในภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยยังมีการกล่าวถึง […]

     
  •  
  • 18 มหาสดำ (Cyathea spp.)

    บทที่ 18 มหาสดำ กูดต้น (Cyathea gigantea / Cyathea podophylla) เป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ในกลุ่มทรีเฟิร์น (Tree fern) ที่มีลำต้นสูงคล้ายต้นมะพร้าวและใบประกอบแบบขนนกสองชั้น พบกระจายพันธุ์ในป่าดิบเขาที่ชื้นสูงตั้งแต่จีน พม่า อินเดีย กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และในไทยทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ โดยสวนหลวงสิริภูมิ โครงการหลวงดอยอินทนนท์ได้รวบรวมปลูกไว้เป็นอาณาจักรทรีเฟิร์นที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มหาสดำไม่เพียงมีคุณค่าทางภูมิทัศน์และการอนุรักษ์ แต่ยังถูกใช้ในตำรายาไทยเป็นหนึ่งใน พิกัดเบญจโลธิกะ มีสรรพคุณดับพิษร้อน แก้ไข้กาฬ แก้ร้อนใน […]

     
  •  
 
 
 
 
PHP Code Snippets Powered By : XYZScripts.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save